วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

I can change... I see


จากการพูดถอดเสียงครั้งที่แล้วรู้สึกว่าตัวเองพูดติดๆขัดๆพูดไม่ค่อยคล่อง แต่พอได้มาดูของคนญี่ปุ่นเล่า

เรื่องทั้ง 11 ชิ้น และได้ฟังอาจารย์สอนคำศัพท์และสำนวนต่างๆ จึงเข้าใจและได้ลองแก้ไขประโยคของ

ตัวเองดูเพื่อให้มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น เย้!


หลังจากแก้ไขแล้ว

この話は赤ちゃんについての話です。赤ちゃん一人は寝ている犬を見て、犬の上 に乗りたいという想像があります。その時、赤ちゃんはその犬にハイハイして近づいたとたんに、犬が目を覚ましてしまって、ふと犬と目が合って、「あ!やばっ!乗れなくなっちゃった!」と思いました。赤ちゃんは今度気づかれないように犬の後ろにまわり込もうとしました。まわり込んだ後にあ!また犬の頭が自分に向いていました。「えっなんでお尻に顔があるの?」と赤ちゃんは何だか分からなくなってしまいました。実は犬は後ろを向いて赤ちゃんを待ち構えてみたいです。小さな赤ちゃんより犬のほうが一枚であったという話ですね。

内省

   คิดว่าของตัวเองต่างจากคนญี่่ปุ่นตรงที่ใช้คำศัพท์แบบง่ายๆไม่มีความน่าสนใจ บางคำก็ใช้ผิดเช่น 這っています จริงๆต้องใช้ว่า ハイハイする 這っていくหรือ 這ってくる คิดว่าของตัวเองจบแบบไม่สรุปคือเล่าอย่างเดียว แต่ของคนญี่ปุ่นจะมีสรุปหรือใส่ความคิดเห็นตัวเองลงไป คิดว่าของตัวเองไม่มีการใช้คำเลียนเสียงพูดที่ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจขึ้น หรือพวกกริยาวิเศษณ์ เช่น ふとทำให้เนื้อเรื่องไม่น่าตื่นเต้น คิดว่าตัวเองใช้ そしてมากเกินไป ในขณะที่คนญี่ปุ่นจะไม่ใช้เลยในภาษาพูด แต่จะใช้รูป เสียมากกว่า
      สิ่งที่แต่งใหม่ก็ได้ใช้สำนวนที่น่าสนใจ เช่น  ハイハイして犬が目を覚ましてしまって เป็นต้น ใช้กริยาวิเศษณ์ให้เรื่องดูน่าตื่นเต้น เช่น ふと(犬と目が合って) たとたんにเพิ่มความรู้สึกของตัวละคร คำพูด เช่น「あ!やばっ!乗れなくなっちゃった!มีการสรุปปิดท้ายเรื่อง ได้แก่ 実は犬は後ろを向いて赤ちゃんを待ち構えてみたいです。小さな赤ちゃんより犬のほうが一枚であったという話ですね。และพยายามทำให้赤ちゃんเป็นตัวดำเนินเรื่องเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของเรื่องค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น